Blade Runner
"Man has made his match... Now it's his problem."
ประเภท Dystopian Sci-Fi Thriller กำกับโดย Ridley Scott เขียนบทโดย Hampton Fancher, David Webb Peoples บทภาพยนตร์ดัดแปลงจากนวนิยา ยเรื่อง "Do Androids Dream of Electric Sheep?"
เขียนโดย Philip K. Dick นำแสดงโดย Harrison Ford, Rutger Hauer, Sean Young ปี 1982
VIDEO
เรื่องราวของ ริค เด็คการ์ด นายตำรวจหน่วยพิเศษซึ่งมีชื ่อเรียกว่า 'เบลด รันเนอร์' มีหน้าที่ในการสืบสวนและตาม สังหาร (ในเรื่องใช้คำว่าปลดเกษียณ ) 'เรพลิแคนท์' (Replicant) ซึ่งเป็นมนุษย์เทียมที่ถูกส ร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นแรงงาน แทนมนุษย์ในการสำรวจและสร้า งอาณานิคมนอกโลก หรือที่เรียกว่า 'Off World โดยมีฉากหลังเป็นนครลอสแองเ จลิส ในปี 2019 หรืออีก 5 ปีในอนาคต
บริษัท ไทเรลล์ คอร์เปอเรชัน ได้พัฒนาเรพลิแคนท์ไปจนถึงร ุ่น Nexus ที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์เกื อบทั้งหมด คือมีเลือดเนื้อ หรือแม้กระทั้งมีความทรงจำ มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมน ุษย์ ทั้งความรัก อาการเสียใจ อาการโกธรแค้น และสามารถมีเซ็กซ์เหมือนมนุ ษย์ได้ เรพลิแคนท์เหล่านี้เหมือนมน ุษย์จนแยกไม่ออก ซึ่งการจะแยกแยะได้ ต้องดูที่ดวงตาว่าจะมีอาการ ตอบสนองอย่างไร เมื่อมีการทดสอบด้วยการถามค ำถาม ตำรวจหน่วยเบลด รันเนอร์คนหนึ่งถูกเรพลิแคน ท์ชื่อ ลีออน ยิงอาการปางตายในระหว่างที่ ลีออนถูกบังคับให้ตอบคำถาม เพื่อทดสอบว่าเขาเป็นมนุษย์ หรือเรพลิแคนท์ ทำให้เด็คการ์ดซึ่งลาออกไปแ ล้ว ถูกเรียกให้กลับมาทำงานอีกค รั้ง โดยที่ไม่ได้เต็มใจนักเหมือ นถูกบังคับ หน้าที่ของเขาคือจัดการเรพล ิแคนท์ 4 ราย ซึ่งหลบหนีเข้ามาในลอสแองเจ ลิสอย่างผิดกฎหมาย และเนื่องจากอายุขัยของเรพล ิแคนท์ถูกกำหนดให้มีเพียงแค ่ 4 ปีเท่านั้น จึงเป็นสาเหตุให้ รอย แบตตี ผู้นำการก่อกบฏที่อาณานิคมน อกโลก ลักลอบเข้ามาในเมืองนี้เพื่ อตามหาไทเรลล์ ผู้ให้กำเนิดพวกมัน และบังคับให้ผู้สร้างเปลี่ย นแปลงค่าอายุขัย เพื่อจะทำให้ตนเองมีชีวิตที ่ยืนยาวมากขึ้น... จากข้อมูลที่ได้ศึกษามาทำให้ทราบว่าหนังเรื่องนี้มีถึง 4 เวอร์ชัน! โดยเวอร์ชันแรก ออกฉายเพื่อทดสอบปฏิกิริยาข องผู้ชมในรอบพรีวิว ในปี 1982 แต่ปรากฎว่า ผู้ชมส่วนใหญ่กลับรู้สึกงุน งง และสับสนกับเนื้อเรื่อง ผู้บริหารสตูดิโอแก้ไขสถานก ารณ์เฉพาะหน้า ด้วยการให้สก็อตต์เพิ่มเติม 2 ส่วนด้วยกัน (เรียกได้ว่าสก็อตถูกสตูดิโ อเข้ามาแทรกแซงการตัดต่อ) คือให้ใส่เสียงบรรยายของเด็ คการ์ด (แฮร์ริสัน ฟอร์ด) ตัวเอกของเรื่องเข้าไปเพื่อ ขยายความในหลายๆ ช่วงที่คลุมเครือ และให้เปลี่ยนตอนจบของเรื่อ งที่ลงเอยอย่างค่อนข้างหม่น หมองให้ดูสดใส และแฮปปี้เอนดิ้ง ส่งผลให้หนังเต็มไปด้วยเสีย งบรรยาย เพราะกลัวคนดูไม่เข้าใจ พร้อมบทสรุปแบบตามสูตร กลายเป็นเวอร์ชันที่ฉายในโร งภาพยนตร์ ณ ขณะนั้น แต่ 10 ปีต่อมา คือปี 1992 สก็อตก็นำหนังเรื่องนี้มาตั ดต่อใหม่อีกครั้งเป็นเวอร์ช ัน Director’s Cut เขาตัดเสียงบรรยายที่ฟังดูไ ร้ชีวิตชีวาของตัวเอกออกไป พร้อมทั้งแก้ไขรายละเอียดบา งส่วนในแง่ของโครงสร้าง และสรุปเรื่องทั้งหมดในลักษ ณะที่ไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอนด ิ้ง จากนั้นอีก 15 ปีต่อมา คือปี 2007 สก็อตก็นำหนังเรื่องนี้มาปร ับปรุงใหม่อีกครั้ง เป็นเวอร์ชัน The Final Cut และได้บอกว่านี่เป็นฉบับที่ สมบูรณ์ที่สุด ภาพและเสียงได้รับการปรับแต่งใหม่ทั้งหมด ความเห็นจากคนดูหลายท่านบอก ว่า หนังดูรู้เรื่องมากขึ้น และเปิดโอกาสให้คนดูได้ใช้จ ินตนาการตีความมากขึ้น ไม่ชี้นำจนเกินไปเหมือนเวอร์ชันดั้งเดิมที่ฉายในโรงภาพ ยนตร์ เรื่องนี้นำเสนอ 'ดิสโทเปีย' (โลกอนาคตในจินตนาการที่หม่ นหมองตรงกันข้ามกับคำว่า ยูโทเปีย) ลักษณะการดำเนินเรื่องเหมือ น Film Noir คือแสดงให้เห็นด้านมืดภายใน จิตใจของตัวละคร บรรยากาศก็มีความหม่นหมองทั ้งเรื่อง คือเหตุการณ์มักเกิดขึ้นในช ่วงกลางคืน และมักจะมีฝนตก ในตอนแรกที่ออกฉาย หนังไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านรางวัลและรายได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป หนังเรื่องนี้ได้รับการกล่า วขวัญ และได้รับการยกย่องมากขึ้น จนกลายเป็นหนังยอดเยี่ยมสำห รับใครหลายคน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับหน ังอีกหลายเรื่อง จนในที่สุด ก็มีสถานะเป็นหนังที่เรียกว ่า Cult Films หรือหนังประเภทที่มีกลุ่มสา วกที่หลงใหล และอุทิศความสนใจทั้งหมดให้ กับการค้นหารายละเอียดต่างๆ ในหนังอย่างจริงจัง
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น Masterpiece ของ ริดลีย์ สก็อตต์ อย่างแท้จริง
.....