Miller’s Planet Scene
ฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Interstellar (2014)
ในขณะที่คูเปอร์และลูกเรือขับยานเรนเจอร์เดินทางเข้าใกล้ดาวมิลเลอร์ (Miller’s Planet)
คนดูจะมองเห็นหลุมดำ การ์แกนทัว (Gargantua) ซึ่งล้อมรอบด้วย Accretion Disk ที่สว่างไสว (ภาพบน)
แม้จะดูน่าตื่นตาตื่นใจ แต่จริงๆ แล้วขนาดของการ์แกนทัวกลับเล็กกว่าขนาดแท้จริงที่ควรจะเป็นอย่างมาก เมื่อดูจากตอนต้นเรื่องที่หนังปูพื้นไว้ว่า ดาวมิลเลอร์นั้นโคจรอยู่ใกล้กับเส้นขอบฟ้าเหตุการณ์ (Event Horizon) อย่างมาก เปรียบได้กับลูกบาสที่อยู่บนขอบห่วง (ภาพล่าง)
.....
มันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร?
Kip Thorne หนึ่งในโปรดิวเซอร์คนสำคัญ ได้อธิบายไว้ในหนังสือ The Science of Interstellar โดยเขาบอกว่า...
ถ้าดาวมิลเลอร์อยู่ใกล้กับการ์แกนทัวมากๆ จนกระทั่งเวลาช้าลงแบบสุดขั้ว ตำแหน่งของดาวมิลเลอร์จะต้องอยู่ใกล้กับหลุมดำนี้มากที่สุดเท่าที่วัตถุใดๆ จะสามารถโคจรอยู่ได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยไม่ตกลงไปในหลุมดำ
สิ่งที่คนดูจะเห็นจริงๆ คือ หลุมดำการ์แกนทัวควรจะครอบคลุมพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของอวกาศรอบๆ ดาวมิลเลอร์ เราจะเห็น Accretion Disk อยู่ด้านบน และเงามืดดำอยู่ด้านล่าง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่กฎของไอน์สไตน์ได้ทำนายไว้
"ถ้าคริส (โนแลน) ทำตามสิ่งที่กฏของไอน์สไตน์กำหนดไว้ทั้งหมด มันคงจะทำให้ภาพยนตร์เสียอรรถรส"
การที่ได้เห็นภาพสุดมหัศจรรย์ตั้งแต่ต้นเรื่อง จะทำให้ฉากสำคัญของภาพยนตร์ นั่นคือฉากที่คูเปอร์เข้าไปในหลุมดำกลายเป็นฉากธรรมดาๆ ไปเลย
โนแลนตั้งใจจะเก็บฉากสำคัญนี้เอาไว้ในตอนท้ายเรื่อง ดังนั้นเขาจึงต้องการให้ภาพของการ์แกนทัวเมื่อมองจากดาวมิลเลอร์มีขนาดที่ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ คือมีขนาดใหญ่เพียง 20 เท่าของดวงจันทร์เมื่อมองจากโลก
คิป ธอร์น ยังบอกอีกว่า แม้เขาจะเป็นนักวิทยาศาสตร์และต้องการความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์ในภาพยนตร์มากเพียงไร ก็ไม่อาจไปตำหนิโนแลนได้ ถ้าเขาจะต้องตัดสินใจเลือก ก็คงจะทำแบบเดียวกัน
.....
ที่มา: The Science of Interstellar
Kip Thorne เขียน
ดร.อรรถกฤต ฉัตรภูติ แปล