Film Noir

Film Noir มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า หนังดำ หรือ หนังมืด เป็นตระกูลหนังที่เหมือนจะหายสาบสูญไปแล้ว 

ฟิล์มนัวร์ มีลักษณะพิเศษ คือ มีโทนที่หม่นหมอง ใช้เทคนิคการจัดแสงแบบความสว่างน้อย พื้นที่สีดำมาก หรือทำภาพแบบขาวจัดตัดกับดำจัด และมักใช้เสียงบรรยายเล่าเรื่อง

หนังฟิล์มนัวร์ มีลักษณะเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ ความรุนแรง ความวิตกกังวลหรือความกลัว ความตาย อาชญากรรม ศีลธรรมที่คลุมเครือ ความรู้สึกผิด และความรู้สึกขัดแย้งหรือสับสนในจิตใจของตัวละคร

นักวิจารณ์หนังหลายคนมองว่า หนังฟิล์มนัวร์แท้ๆ เรื่องสุดท้ายของโลก คือ Touch of Evil (1958) ของ Orson Welles ซึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ก็ต้องนึกถึงฉากเปิดเรื่องที่ยอดเยี่ยมด้วย Long Take ความยาว 3 นาทีกว่า ซึ่งมีความลงตัวอย่างมาก ทั้งการเคลื่อนกล้อง การเซ็ตฉาก และการแสดง อีกทั้งยังถูกจดจำว่าเป็นหนังดีอีกเรื่องที่ไม่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนั้น





กล่องไปรษณีย์สีแดง

"จริงๆ เวลาที่นี่อาจเดินกลับหลังก็ได้ และนั่นทำให้ฉันคิดถึงแก"


เรื่องราวความรักของ หมู หรือที่เพื่อนๆ ตั้งชื่อให้ว่า "ไข่ย้อย" ที่เกิดขึ้นในสองช่วงเวลา และสองสถานที่ ที่หนึ่งเป็นภูเขา และอีกที่หนึ่งเป็นทะเล ซึ่งระยะทางห่างกันถึง 1,500 กิโลเมตร โดยบอกเล่าผ่านมุมมองของไข่ย้อยเพียงคนเดียว

...

ไข่ย้อยเข้าเรียนในคณะวิจิตรศิลป์ ที่เชียงใหม่ และได้พบกับ ดากานดา
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อน จนความรู้สึกของไข่ย้อยได้พัฒนาจนเกินเพื่อน
หลังเสร็จจากการสอบวิชาสุดท้าย ไข่ย้อยบอกความรู้สึกที่เก็บเอาไว้ห้าปีเต็มให้ดากานดาฟังที่ใต้ต้นชงโค

ดากานกาพูดตอบเขาเพียงประโยคเดียว

"แกมาทำอะไรเอาในตอนนี้"

...

ไข่ย้อยออกเดินทางไปที่เกาะพะงัน และได้พบกับ นุ้ย พยาบาลที่คอยดูแล และช่วยเหลือในช่วงที่เขาขาหัก

เวลาผ่านไป ความรู้สึกของนุ้ยที่มีต่อไข่ย้อยก็เพิ่มมากขึ้นจนมากกว่าความเป็นเพื่อน แต่เขายังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นความรักใหม่กับใคร เขาจึงออกเดินทางอีกครั้ง...

...

ไข่ย้อยมีลักษณะของคนที่ติดอยู่กับความทรงจำในอดีต และติดอยู่กับความรู้สึกลึกซึ่งที่มีกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง จนไม่ยอมเปิดใจให้ใคร
นับตั้งแต่วันที่เขาได้รู้จักกับดากานดา นาฬิกาชีวิตของเขาไม่เคยเดินไปข้างหน้า มันติดอยู่ที่เชียงใหม่

จนเมื่อได้หนีจากภูเขามาไกลถึงทะเล ได้อยู่กับตัวเอง ได้ทบทวนอดีต จนดึงตัวตนเดิมกลับคืนมาอีกครั้ง และเห็นภาพสะท้อนของตัวเองผ่านนุ้ย ผู้คอยดูแลเขาจนสนิทสนมไปไหนมาไหนด้วยกัน
เจ้าชายน้อย จากหนังสือที่นุ้ยมอบให้กับไข่ย้อย ที่มาให้แง่คิดที่ีเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับเขาว่า ชีวิตของมนุษย์จะดำเนินต่อไปได้ ก็ต่อเมื่อเรารู้จักที่จะเปิดใจ

"ฉันกำลังจะเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง คงเป็นสักที่ ที่เวลาเลิกเดินถอยหลัง และเวลาของฉันเริ่มต้นขึ้น"

สุดท้ายแล้ว หมูหรือไข่ย้อยจะเลือกใคร และชีวิตจะไปในทางไหน ก็คงไม่สำคัญ เท่ากับการที่เขาได้เรียนรู้ที่จะเติบโต และกลับมาเป็นตัวของตัวเอง เผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองหนีอีกครั้ง


...

กล่องไปรษณีย์สีแดง | 2000
เขียนโดย อภิชาติ เพชรลีลา
สำนักพิมพ์ นกดวงจันทร์

A Clockwork Orange

"ความดีเป็นทางเลือก เมื่อไม่มีทางให้เขาได้เลือกเอง เขาจะสิ้นสุดความเป็นคน"



ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในโลกอนาคตที่เสื่อมโทรม 

อเล็กซ์ เดอ ลาร์จ วัยรุ่นอายุ 15 ปี หัวหน้าแก๊งอันธพาล ซึ่งมีลูกน้องสามคน เขาชอบพาเพื่อนไปก่ออาชญากรรมในตอนกลางคืน เช่น รุมทำร้ายชายชราเร่ร่อน ยกพวกไปตีกับแก๊งอื่นในโรงละครร้าง ในขณะที่แก๊งนั้นก็กำลังฉุดผู้หญิงมาข่มขืน และบุกเข้าไปในบ้านเพื่อรุมทำร้ายนักเขียนคนหนึ่ง และข่มขืนภรรยาของนักเขียนคนนั้น!

วันหนึ่งพวกเด็กแก๊งนี้ ได้บุกเข้าไปในบ้านของหญิงวัยกลางคนเพื่อขโมยของ แต่อเล็กซ์ทำร้ายเจ้าของบ้านจนเสียชีวิต ลูกน้องที่เกลียดชังอเล็กซ์อยู่แล้ว ก็หักหลังลอบทำร้ายเขาจนมองไม่เห็น อเล็กซ์จึงหนีตำรวจไม่ทัน

อเล็กซ์ถูกจับขึ้นศาล ติดคุกเป็นเวลาถึง 14 ปี
แต่เมื่อเขาติดคุกได้เพียง 2 ปี รัฐบาลมีนโยบายที่จะจัดการกับอาชญากรด้วยวิธีพิเศษ เขาจึงอาสาตัวเอง ยอมเป็นหนูทดลอง โดยหวังว่าจะได้เป็นอิสระ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อเล็กซ์สิ้นสุดความเป็นคน...



A Clockwork Orange เป็นหนังที่อาร์ตมาก เป็นงานแบบ Abstract แฝงปรัชญาและมีเนื้อหาที่แรง จนตอนแรกหนังถึงกับได้เรตเอ็กซ์! จนต้องตัดเอาบางฉากออกไป แต่มีดนตรีประกอบเป็นเพลงคลาสสิคที่ฟังสบายๆ สีของฉากและการแต่งกายภายในเรื่องก็ดูฉูดฉาด ซึ่งทั้งเพลงและโทนสีในเรื่อง ล้วนแล้วแต่มีความขัดแย้งกับเนื้อเรื่องที่กล่าวถึงสังคมที่มืดมน แต่คูบริคกลับผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

หนังบอกเล่าเรื่อง ความดี-ความชั่ว แต่หนังก็ไม่มีข้อสรุปอะไรที่สามารถบอกได้ว่า ทำอย่างนี้ดี ทำอย่างนั้นชั่ว เพราะมีการหลอกลวง หักหลัง ความเห็นแก่ตัว อีกทั้งการเมืองที่สกปรก อยู่มากมายตลอดทั้งเรื่อง

หนังไม่ได้ต้องการพิสูจน์หรือตัดสินว่า ความดีและความชั่วจะเป็นอย่างไร เพราะความดี-ความชั่ว อาจเป็นสิ่งที่ผสมผสานกันอยู่ แต่คนเราเองที่เอากฏเกณฑ์ศีลธรรมมาเป็นเส้นแบ่งสองสิ่งนี้ออกจากกัน
แต่ตราบใดที่เรายังสามารถ 'ชั่งใจ' และรับรู้ได้ว่า อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ โดยไม่ถูกสิ่งใดมาบังคับ สิ่งนี้จะทำให้เราเป็นมนุษย์ที่เต็มเปี่ยม

ถ้านึกภาพโลกในอนาคต ที่คนเรากลายเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถเลือกทำอะไรได้เองอีกต่อไป ถูกบังคับให้ทำเฉพาะสิ่งที่ได้รับการยอมรับทางสังคมเท่านั้น ต้องกลายเป็นเครื่องจักรที่ทำได้แต่ความดี  

ไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังถูกไขลาน

...

A Clockwork Orange | 1971
Director: Stanley Kubrick
Screenplay: 
Stanley Kubrick

Based on: Novel A Clockwork Orange (1962) by Anthony Burgess
Star: Malcolm McDowell