Mystic River

"บาดแผลที่ไม่มีวันเหือดแห้ง"

ประเภท Crime Drama Thriller
กำกับโดย Clint Eastwood
เขียนบทโดย Brian Helgeland
ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง "Mystic River" 

เขียนโดย Dennis Lehane
นำแสดงโดย Sean Penn, Tim Robbins, 

Kevin Bacon
ปี 2003

เรื่องราวของเพื่อนรักสามคน จิมมี ฌอน และเดฟ
วันหนึ่งในขณะที่ทั้งสามเล่นฮอกกีอยู่บนถนนละแวกหมู่บ้าน ซึ่งเป็นชุมชนริมฝั่งแม่น้ำมิสทิคที่ไหลผ่านเมืองบอสตั
จิมมี เห็นพื้นฟุตบาทที่เพิ่งลาดคอนกรีตใหม่ๆ เลยนึกคะนองอยากเข้าไปเขียนชื่อเป็นที่ระลึก เขาชวนฌอนและเดฟเข้าไปเล่นสนุกด้วย ฌอนซึ่งมีบุคลิกกลัวการทำผิด ก็กลับทำตามเพื่อนไปด้วย

ชื่อจิมมีและฌอนถูกเขียนลงไป แต่ก่อนที่เดฟจะเขียนชื่อเสร็จ ก็มีชายร่างใหญ่สองคนแสดงตัวเป็นตำรวจเข้ามาห้าม พร้อมทั้งบังคับให้เดฟขึ้นรถ และไล่จิมมีกับฌอนให้กลับบ้านไป รถคันนั้นก็ค่อยๆ เคลื่อนจากไปช้าๆ
เดฟถูกชายทั้งสองคนนั้นจับไปขังเพื่อทารุณกรรมทางเพศอยู่หลายวัน ก่อนที่จะหนีมาได้ในสภาพโทรมยับเยิน ชีวิตปกติอย่างที่ควรจะเป็นของเดฟจบลงแล้ว ตั้งแต่วันที่เขาขึ้นรถคันนั้นไป

ผ่านไป 25 ปี ทั้งสามคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และมีครอบครัว ทั้งสามกลับมาเจอกันอีกครั้ง เพราะคดีฆาตกรรม ซึ่งมี เคธี ลูกสาวของจิมมี เป็นเหยื่อเคราะห์ร้าย! จิมมีรักลูกสาวคนนี้มาก เพราะเธอคือตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้อันธพาลอย่างเขาพยายามกลับตัวเป็นคนดี


ฌอนซึ่งเป็นตำรวจ รับหน้าที่ไขคดีนี้พร้อมกับเพื่อนคู่หูของเขา

ในคืนเกิดเหตุ เดฟนั่งดื่มเหล้าอยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งมีเคธีพร้อมกับเพื่อนอีกสองคนอยู่ที่นั่นด้วย เดฟกลับบ้านในสภาพเสื้อผ้าเปื้อนเลือดพร้อมบาดแผลที่ท้องและข้อมือ ภาพในคืนนั้นทำให้ เซเลส ภรรยาของเดฟ รู้สึกไม่ชอบมาพากล และสงสัยในตัวสามีว่า ความจริงแล้วเกิิดอะไรขึ้นในคืนนั้น

ฌอนและคู่หู พยายามสืบสวนหาตัวคนที่ฆ่าเคธี ตามขั้นตอนที่เคยปฏิบัติมาตลอด ตามหลักของกฏหมาย และกระบวนการยุติธรรม แต่จิมมี ซึ่งมีอิทธิพลอยู่ในกลุ่มอันธพาลเดิมอยู่แล้ว กลับพยายามที่จะเอาตัวคนผิดมาลงโทษด้วยตัวเอง โดยไม่หวังพึ่งกฏหมาย...

จากการแสดงอันยอดเยี่ยมของ ฌอน เพนน์ และ ทิม ร็อบบินส์ ทำให้ทั้งคู่ได้รางวัลออสการ์ในปีนั้น จากสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมตามลำดับ

หนังสะท้อนด้านมืดของสังคม 'สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่อย่างที่คิด' โลกแห่งความเป็นจริง อาจมีอะไรที่ซับซ้อน อยู่อีกชั้นหนึ่งก็ได้


อีกประเด็นหนึ่งคือ การเอาความรู้สึกส่วนตัวมาชี้นำว่า ใครเป็นคนทำผิด ซึ่งหนังก็พยายามบอกว่า สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเอาความรู้สึกมาเป็นตัวชี้นำมากแค่ไหน 'หลักฐานและข้อเท็จจริง' จะเป็นตัวตัดสินความถูกต้องเอง
.....

จับตาย

"มนัส จรรยงค์ มีการสร้างสรรค์ที่เป็น 'เอกลักษณ์' ของตนโดยเฉพาะ แต่เขาก็สร้างลักษณะ 'สากล' ทางโศกนาฏกรรมขึ้นมาได้ ไม่ปานบทละครกรีกหรือนวนิยายคลาสสิกของประเทศทางตะวันตกที่ยอมรับกันโดยทั่วไป" - สุชาติ สวัสดิ์ศรี

ประเภท รวมเรื่องสั้น
เขียนโดย มนัส จรรยงค์
ปี 2532
สำนักพิมพ์ สร้างสรรค์บุ๊คส์

"เขามีความเชื่อมั่นอยู่แต่ว่า 'ความเป็นอยู่ของคนเราก็คือหนังสือเล่มหนึ่ง'

วันเกิดของเขาคือ หน้าต้นที่แสดงชื่อผู้แต่ง ศาสนาหรือศีลธรรมของเขาก็คือ หน้าที่เขียนคำอุทิศของหนังสือ เสียงร่ำร้องครวญครางของเขาฝากไว้ให้แก่ผู้อ่านหนังสือเล่มนั้น
ความเป็นเด็กซุกซนปราศจากเดียงสาของเขาก็คือ หน้าหนังสือที่บอกแก้คำผิดและสารบัญ อันจะแสดงอุปนิสัยแต่เด็กนั้นให้ติดต่อกันไปถึงการแสดงบทบาทสำคัญของท้องเรื่องในอนาคต ชีวิตและความเป็นอยู่ก็คือ เนื้อเรื่องของหนังสือ ใช้ศีลธรรม ความนับถือเป็นผู้ตรวจทานในเรื่อง

บางเล่มก็เล็ก บางเล่มก็ใหญ่ บางเล่มก็หนาและบาง ตามแต่เนื้อเรื่อง บางเล่มก็กระดาษดี บางเล่มก็กระดาษเลว
แต่ในหน้าสุดท้ายของหนังสือทุกเล่มมักมีคำว่าจบ หรือว่า 'อวสาน' หรืออื่นๆ ที่มีความหมายเหมือนกัน ซึ่งเป็นคำแสดงว่าหนังสือนั้นหมดเนื้อความแล้ว..."
- มนัส จรรยงค์ กล่าวไว้ใน "หนังสือเล่มหนึ่ง"


"จับตาย" เรื่องราวของเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานกับนักโทษ จากเหตุการณ์รักสามเส้า ทำให้เขาได้รับคำสั่งให้ไปจับตายนักโทษที่ตนสนิท เรื่องนี้นำเสนอความขัดแย้ง ระหว่างความรู้สึกส่วนตัวกับหน้าที่ และความผูกพันซึ่งเกิดจากการอยู่ร่วมกันจนกลายเป็นเพื่อนของคนต่างหน้าที่ ที่คล้ายจะเป็นศัตรูกัน  

"ซาเก๊าะ" เรื่องราวของวัวชนตัวหนึ่ง ที่กำลังจะเข้าสู้ศึกสำคัญในงานฉลองรัฐธรรมนูญ โดยมีเรื่องของการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงความโลภอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์
มนุษย์ผู้เป็นเจ้าชีวิตของสัตว์นั้น กลับแสดงสัญชาตญาณดิบของตนออกมา ในรูปของการทรมาน และทารุณสัตว์ แต่วัวชน กลับมีสัญชาตญาณของความเป็นมนุษย์ คือมีศักดิ์ศรี มีความกล้าหาญ มีจิตใจไม่ยอมแพ้ และเข้มแข็งกว่ามนุษย์เสียอีก

มนัส จรรยงค์เขียนเรื่องสั้นมาไม่ต่ำกว่า 1,000 เรื่อง นวนิยายอีกประมาณ 20 เรื่อง เรื่องสั้น "จับตาย" ได้รับเลือกจากสมาคมนักเขียนแห่งออสเตรเลีย แปลเป็นภาษาอังกฤษและตีพิมพ์ในหนังสือ Span ร่วมกับนักเขียนชาติอื่นๆ ทั่วโลก โดยใช้ชื่อว่า "Shoot to Kill" 

เรื่องสั้น "ซาเก๊าะ" ได้รับการคัดเลือกให้ตีพิมพ์เป็นหนังสืออ่านนอกเวลา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของกระทรวงศึกษาธิการ 

ในปี พ.ศ. 2525 สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ได้ยกย่องให้ มนัส จรรยงค์ เป็นหนึ่งในสิบห้านักเขียนเรื่องสั้นไทย 'ดีเด่นในรอบ 100 ปี' และในปีเดียวกัน "จับตาย" ก็ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์
.....