"มีปัญหาอะไร ไปหาแพนดาด้า"
ประเภท การ์ตูน นิยายภาพ เขียนโดย องอาจ ชัยชาญชีพ ปี 2555 สำนักพิมพ์ เป็ดเต่าควาย เรื่องราวของ แพนดาด้า ที่ผู้คนต่างเรียกขานกันว่า 'เทพเจ้าแมว'
ซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป ลึกลับซับซ้อนยากที่ใครจะไป ถึง ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยภยันต ราย แต่ถึงแม้จะยากลำบาก ผู้คนที่มีความคับข้องใจในช ีวิต ต่างก็พยายามที่จะไปให้ถึงด ินแดนแห่งนั้น เพียงเพื่อให้ได้พบกับ 'ท่าน' ผู้นั้น เพราะทุกคนเชื่อว่า แพนดาด้า จะสามารถคลี่คลายปัญหาคับข้ องใจในชีวิตให้พวกเขาเหล่าน ั้นได้ ดังคำกล่าวที่บอกเล่าต่อๆ กันมาว่า "มีปัญหาอะไร ไปหาแพนดาด้า"
แต่ถึงแม้จะเป็นถึงเทพเจ้า แต่ท่านก็ยังคงมีนิสัยของคว ามเป็นแมว คือรักความเป็นส่วนตัว เกลียดความวุ่นวาย เทิดทูนความรื่นรมย์ และบูชาความเกลียดคร้าน "เทพเจ้าแมว แพนดาด้า" การ์ตูนแฝงปรัชญา เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสร รค์และอารมณ์ขัน มีลายเส้นที่เรียบง่าย ดูแล้วสบายตา อย่างที่บอกว่า แมวก็ยังคงเป็นแมว เทพเจ้าแมว จึงมีวิธีการตอบคำถาม หรือแก้ปัญหาให้ผู้คนที่มีค วามทุกข์ในแบบที่ไม่เหมือนใ คร ซึ่งบางเรื่องก็เหมือนไม่ได้แก้อะไรเลย เพียงแต่ผู้คนเหล่านั้นอาจม ีทางแก้ไขอยู่แล้ว แต่กลับมองข้าม หรือหลงลืมไป ท่านเพียงเตือนสติเขาเหล่า นั้นให้รับรู้ ท่านยังฝากบอกทุกคนว่า "ความสุข คือความทุกข์ที่ผ่อนคลาย"
.....
"สองคนสองคม ฉบับสไนเปอร์"
ประเภท History Drama Thriller กำกับโดย Jean-Jacques Annaud เขียนบทโดย Jean-Jacques Annaud, Alain Godard
บทภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสื อเรื่อง "Enemy at the Gates: The Battle for Stalingrad" และ
"The War of the Rats" ซึ่งเขียนโดย William Craig
นำแสดงโดย Jude Law, Ed Harris, Rachel Weisz, Joseph Fiennes ปี 2001
VIDEO
ภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการ ณ์จริง และบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง ในประวัติศาสตร์
(แต่เหตุการณ์บางตอนในหนังเ ป็นเรื่องแต่ง) โดยมีฉากหลังเป็นเมืองสตาลิ นกราดในปี ค.ศ. 1942 ช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งท ี่ 2 ซึ่งขณะนั้นกองทัพนาซีเยอรม ันได้แผ่ขยายอำนาจไปทั่วยุโ รป เยอรมันได้รุกรานสหภาพโซเวี ยตมาจนถึงเมืองสตาลินกราด ซึ่งถือว่าเป็นสมรภูมิที่ดุ เดือดที่สุดแห่งหนึ่งในสงคร ามโลก และเป็นสมรภูมิที่พลิกประวั ติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะทำให้กองทัพเยอรมันรู้ จักคำว่าพ่ายแพ้เป็นครั้งแร ก และถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญท ี่พลิกชะตาโลก ทำให้ฝ่ายอักษะต้องแพ้สงครา มในที่สุด เรื่องราวของวาซิลี (Vasily Zaitsev) หนุ่มชาวรัสเซียจากเทือกเขา อูราล ซึ่งถูกเกณฑ์มารบที่เมืองสต าลินกราด ในการออกรบครั้งแรก เขาได้มีโอกาสแสดงฝีมือในกา รยิงปืนระยะไกล เพื่อช่วยเหลือดานิลอฟ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง โดยเขาใช้กระสุุนปืนที่มีติ ดตัวมาเพียง 5 นัด จัดการกับศัตรูจนหมด โดยที่เขายิงไม่พลาดเป้าเลย สักลูก! ดานิลอฟกับวาซิลี จึงกลายเป็นเพื่อนรักกันตั้ งแต่นั้น ต่อมา ผู้แทนของสตาลินผู้นำของโซเ วียต เดินทางมาบัญชาการรบที่สตาล ินกราด ดานิลอฟเสนอความคิดในการให้ วาซิลีไปอยู่หน่วยพลแม่นปืน แล้วทำข่าวโฆษณายกย่องให้เข าเป็นวีรบุรุษ เพื่อเป็นการปลุกขวัญให้บรร ดาทหารและพลเมืองโซเวียต มีกำลังใจในการต่อสู้กองทัพ นาซี วันหนึ่ง เด็กขัดรองเท้าที่ชื่อซาชา ชวนวาซิลีและดานิลอฟไปทานอา หารที่บ้าน วาซิลีจึงได้พบกับทันยา สาวสวยที่เขาพบในรถไฟขบวนที ่นำเขามาที่สตาลินกราดแห่งน ี้ ดานิลอฟเองก็ตกหลุมรักทันยา ตั้งแต่แรกพบ ทันยาอ่านออกเขียนได้ และรู้ภาษาเยอรมัน เขาจึงบรรจุทันยาเป็นทหารฝ่ ายแปลเอกสารภาษาเยอรมัน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยข องทันยาเอง ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร ักทั้งสองค่อยๆ ขุ่นมัวมากขึ้น เมื่อทั้งสองคนหลงรักผู้หญิ งคนเดียวกัน ทางฝ่ายนาซีก็ได้รับรู้ถึงค วามเก่งของวาซิลี และความสำคัญของเขาที่มีต่อ ฝ่ายโซเวียต จึงได้ส่งพันตรีโคนิก นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำน วยการโรงเรียนพลแม่นปืน มาเพื่อจัดการวาซิลีโดยเฉพา ะ โคนิกเป็นที่คนเก่งมาก ฉลาดหลักแหลม เขายิงปืนแม่นยำ แม้เป้าหมายจะเคลื่อนที่อยู่ก็หนีไม่พ้น วาซิลิที่แม้จะยิงปืนแม่น แต่เจอจอมวางแผนอย่างโคนิก ก็ถึงกับท้อแท้ จนเขาคิดว่าไม่อาจสู้กับคนเ ก่งอย่างโคนิกได้ ยิ่งเห็นเพื่อนทหารหน่วยแม่ นปืน ต้องตกเป็นเหยื่อกระสุนของโ คนิกไปมากเท่าไหร่ ความหวาดกลัวภายในใจของวาซิ ลีก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั ้น สงครามส่วนตัวระหว่างแมวกับ หนูดำเนินไปท่ามกลางสมรภูมิ ที่สำคัญที่สุดระหว่างสองขั ้วอำนาจของโลกอย่างสหภาพโซเ วียตและเยอรมนี โดยที่ทั้งสองไม่มีใครเป็นแ มวและหนูอย่างแท้จริง บางคราวก็เป็นแมว บางคราวก็เป็นหนู หรือบางครั้งคิดว่าตัวเองเป ็นแมว แต่ความจริงตัวเองก็อาจกำลั งโดนไล่ล่าเหมือนหนู โดยที่ทั้งสองต่างก็มีหน้าท ี่ความรับผิดชอบและความหวัง ของประเทศอันหนักหนาสาหัสแบ กอยู่บนบ่าเช่นเดียวกัน... ส่วนใหญ่หนังสงครามดูแล้วจะ รู้สึกถึงความหดหู่ แต่เรื่องนี้กลับดูสนุก ลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่อง โดยส่วนตัวแล้ว ข้าพเจ้าชอบบทหนังในส่วนของ การชิงไหวชิงพริบกันระหว่าง นักแม่นปืนทั้งสองคน นับว่าเป็นการฉีกแนวหนังแอค ชันสงครามโดยทั่วไป ที่มักจะเน้นฉากการยิงปืน ระเบิดเมือง หรือวางแผนการรบ แต่ถึงอย่างไรภาพยนตร์ที่เก ี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์สง ครามโลกทุกเรื่อง ล้วนต้องการที่จะบอกผู้ชมใน สิ่งเดียวกันคือ สงครามไม่เคยให้อะไรกับมนุษ ย์ มีแต่ความสูญเสีย เพื่อให้เราทุกคนจะได้ตระหน ักถึงความโหดร้ายและผลเสียจ ากความเกลียดชัง สุดท้ายเมื่อสงครามจบลง ไม่มีใครเลยที่เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง มีแต่แพ้มากกับแพ้น้อย
.....